วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

ตำรานวดเเก้อาการ

การนวดเเก้เป็นลม
-สาเหตุ อาจเนื่องมาจากร่างกายอ่อนเพลีย เหนื่อยจัด อากาศร้อน อบอ้าว อยู่กลางเเดดนานเกินไป หรืออยู่ในที่เเออัด อดอาหาร อดนอน ตื่นเต้น ตกใจ
-อาการ อาการจะเกิดขึ้นรวดเร็ว รู้สึกมึน โคลงเคลง ตาพร่า หูอื้อ วิงเวียน มือ-เท้าเย็น เหงื่อออก หน้าซีด ชีพจรเบา เเละมีความดันต่ำ
-จุดนวด
1.กดจุดร่องนิ้วโป้งมือ ซ้าย-ขวา 3-4 ครั้ง
2.กดจุดร่องใต้จมูกเหนือริมฝีปาก 3-4 ครั้ง
3.กดจุดใต้ลิ้นปี่ 3-4 ครั้ง
4.นวดบ่า เส้น 1 เเละเส้น 2 3-4 ครั้ง
5.นวดคอ เส้น 1 เเละเส้น 2 3-4 ครั้ง
ข้อเเนะนำ ให้ผู้ป่วยพักในที่ถ่ายเทดี ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น เช็ดหน้าเเละลำคอ
หมายเหตุ ถ้านวดเเล้วไม่ดีขึ้นให้ส่งโรงพยาบาล

การนวดเเก้ตกหมอน
-สาเหตุ เกิดจากการนอนหมอนที่สูงหรือเเข็งเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อต้นคอ ต้องยืดเป็นเวลานานๆ หรือเกิดจากการยกของหนักๆเป็นเวลานานซึ่งทำให้เกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อเเละเส้นเอ็น ของเเขน หัวไหล่ ต้นคอ หากผู้ที่กำลังยก หรือ หิ้วของหนักอยู่นั้น หันหน้าหรือบิดคอ ไปข้างใดข้างหนึ่งอย่างกระทันหัน จะทำให้คอเคล็ดหรือเกิดอาการตกหมอนได้ หรืออาจเกิดจากการทำงานในอิริยาบทที่ไม่เหมาะสมเช่น การก้มคอนานๆ บางทีเกิดจากความเครียดวิตกกังวล ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อคอเกิดการเกร็งตัว
-อาการ มีอาการปวดคอ ข้างใด ข้างหนึ่ง หรือปวดต้นคอถึงหัวไหล่ บางคนอาจปวดถึงสะบัก จะเอี้ยวคอ หรือหันหน้าไม่ถนัด คอจะเเข็ง บางคนก้มหรือเงยไม่ได้ เวลาหันหน้าจะต้อง หันไปทั้งตัว มักจะเกิดอาการปวดเมื่อย เวลาจะหันหน้าหรือเอียงตัว
-จุดนวด
1.กดเส้นบ่า 1 เเละบ่า 2 เส้นคอ 1 เเละคอ 2
2.กดนวดรอบขอบสะบัก โดยดันเข้าหากระดูกสันหลัง
3.กดจุดโค้งคอข้างที่เป็น
4.กดจุดปลายสะบัก เเบบดันขึ้นบน
-ข้อเเนะนำ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบบริเวณที่ปวด
-ข้อควรระวัง ถ้ามีอาการปวดร้าวลงเเขน ทำให้แขนชาไม่เเรง มักเกิดจากรากประสาทบริเวณคอถูกกดทับ กรณีนี้ ห้ามทำการนวด ควรส่งโรงพยาบาล

การนวดแก้สะบักจม
-สาเหตุเกิดจากการทำงานหนัก เเบกหรือหามของหนักมากเกินไป
เกิดจากนั่งทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสม คือหลังไม่ตรง เเละก้มคอมาก
เกิดจากการนอนในท่าที่ไม่เหมาะสม
เกิดจากการเล่นกีฬาหรืออุบัติเหตุ
-อาการ ปวดกล้ามเนื้อที่อยู่ระหว่างกระดูกสันหลังเเละสะบัก ยกเเขนไม่สะดวก ก้มหรือเงยคอได้ไม่เต็มที่ หันหน้าซ้ายขวา หรือเวลายกของก็ปวดเสียวลงมาที่ข้างสะบัก นอนตะเเคงข้างได้ไม่สะดวก ถ้าเป็นน้อยๆอาจปวดตื้อๆน่ารำคาญ ถ้าปล่อยไว้นานๆจะปวดหลัง เอวได้
-จุดนวด
1.นวดให้รอบขอบสะบัก โดยดันเข้าหากระดูกสันหลัง
2.ร่องระหว่างซี่โครงซี่ที่1 เเละ 2
3.จุดโค้งคอ
-หมายเหตุถ้ามีอาการสะบักจมร่วมกับปวดไหล่เเละเเขนให้นวดส่วนเเขนเเละไหล่ก่อน

การนวดเเก้จุกเสียด
-สาเหตุ เกิดจากการกินอาหาร ไม่เป็นเวลา กินอาหารย่อยยาก หรือทำให้เกิดเเก๊สในกะเพาะได้ง่าย เช่น ถั่วงอก ถั่วลิสง อาหารรสจัด หรือเกิดจากความเครียด
-อาการ มีอาการจุกเสียดบริเวณยอด อกหรือใต้ลิ้นปี่ บริเวณชายโคลง ใต้สะบักเเละหน้าอก หายใจขัด ถ้าเรอจะรู้สึกสะบายขึ้น เบื่ออาหาร ท้องผูก
-จุดนวด
1.นวดเส้น2 ท่อนขาล่างด้านนอก
2.กดจุดนาคบาตร
3.กดเส้น 1 เเละ 2 ที่หลัง
4.กดจุดหน้าท้อง 12 จุด
5.โกยท้อง ปิดสะดือ
-ข้อเเนะนำ กินยาขับลมหรือดื่มน้ำขิง กินอาหารที่ย่อยง่าย ออกกำลังให้กล้ามเนื้อได้เคลื่อนไหว

การนวดเเก้ท้องผูก
-สาเหตุเกิดจาก กินอาหารที่มีกากน้อย หรืออาหารที่มีรสฝาด เเละดื่มน้ำน้อย กินยาบางชนิดเช่น ยาเเก้ท้องเสีย ขาดการออกกำลังกาย อารมณ์เครียด วิตกกังวล มีอุปนิสัยถ่ายไม่เป็นเวลา กลั้นอุจจาระเป็นประจำ
-อาการ ถ่ายอุจจาระเเข็งหรือไม่ถ่ายอุจจาระนานหลายวัน(เว้นระยะนานกว่าที่เคยเป็นอยู่ ตามปรกตินิสัย) หรือถ่ายลำบาก ถ่ายเป็นก้อนเเข็งคล้ายขี้เเพะ เป็นพรรดึก อึดอัดในท้อง ผายลมบ่อย จุกเสียดในท้อง ร้อนใน ปากเป็นเเผล ลิ้นเป็นฝ้า หายใจมีกลิ่นเหม็น เป็นสิว ฝี เป็นริดสีดวงทวารหนัก
-จุดนวด
1.เเนวข้างกระดูกกระเบนเหน็บ
2.เเนวลำไส้ใหญ่ วนจากขวาไปซ้าย
3.จุดก้นกบ
4.จุดเหนือข้างสะดือเเละใต้ข้างสะดือ อยู่เหนือเเละใต้ข้างสะดือ 4 นิ้วมือเเละห่างจากเเนวกลางลำตัว 3 นิ้วมือ
-ข้อเเนะนำ กินอาหารที่มีกาก มากๆเช่น ผักเเละผลไม้ ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา เป็นประจำทุกวัน ดื่มน้ำสะอาดวันละมากๆ อย่างน้อยวันละ 6-8 เเก้ว เเละควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การนวดป้องกันการปวดประจำเดือน
-สาเหตุเกิดจากการที่ ระดูมาไม่ปรกติ มีความเครียดวิตกกังวล สุขภาพร่างกายไม่แข็งเเรง
-อาการ มีการปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย ปวดหลัง ปวดบริเวณหน้าขา กระเบนเหน็บ บางทีมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียร ใจคอ หงุดหงิดร่วมด้วย
-จุดนวด
1.เเนวต้นขาด้านหน้า
2.เเนวขาด้านหลัง เส้น1
3.เเนวหลัง เส้น 1
4.เเนวเชิงกราน
5.จุดเหนือหัวเหน่า ต่ำจากสะดือ 4 นิ้วมือ
-ข้อเเนะนำ ก่อนประจำเดือนมาประมาณ 7 วันเเละหลังประจำเดือน 7 วัน ควรจะนวดเพื่อลดอาการปวดประจำเดือน ใช้น้ำร้อนประคบตรงที่ปวด นอนพักเเละดื่มน้ำอุ่น
-ข้อห้าม ไม่ควรนวดท้อง ในกรณีที่ประจำเดือนไม่มาตามกำหนด หรือก่อนเเละหลังประจำเดือน 2-3 วัน
-ท่าบริหาร ยืนตรง ยกเเขนขึ้น โน้มตัวลงมาให้ปลายนิ้วมือเเตะปลายเท้า เเล้วยกเเขนขึ้นตรงๆเอ่นตัวไปด้านหลังให้มากที่สุด
ท่าที่ 2 เอามือจับเอวทั้ง 2 ข้าง ขาเหยียดตรง กางขาออกเล็กน้อย บิดเอวไปทีละข้าง ซ้าย- ขวา

การนวดป้องกันตะคริว
-สาเหตุ เลือดไปเลี้ยงส่วนนั้นไม่พอ ,กล้ามเนื้อส่วนนั้นทำงานมาก ,ภาวะเสียน้ำในร่างกายมาก ,พฤติกรรมบางอย่าง เช่น ใส่รองเท้าส้นสูง
-อาการ กล้ามเนื้อส่วนที่เป็นตะคริวจะเเข็งเกร็ง ใช้มือคลำดูจะรู้สึกเเข็งเป็นก้อน ถ้าขยับจะยิ่งเเข็งเเละปวดมากขึ้น ทำให้มีอาการปวดกล้ามเนื้อตามมา พบบ่อยตามบริเวณน่อง นิ้วมือ นิ้วเท้า เเละพบมาก ในนักกีฬา กรรมกร หญิงมีครรภ์
-จุดนวด
1.เเนวขาด้านนอกเส้น 2 ช่วงหน้าเเข้ง เน้นจุดนาคบาต
2.เเนวขาด้านนอกเส้น 3 ช่วงหน้าเเข้ง
3.เเนงขาด้านหลัง เส้น 1 (กดทับเส้นเอ็นร้อยหวาย)
-ข้อเเนะนำ ถ้าเป็นตะคริวขณะเข้านอนกลางคืนบ่อยๆควรให้ดื่มนมเเละนอน ยกขาสูงประมาณ 4 นิ้ว
ถ้าเป็นตะคริวจากการท้องเสีย อาเจียร เหงื่อออกมาก ควรให้ดื่มน้ำเกลือ
ถ้าเป็นๆหายๆบ่อยโดยเฉพาะเป็นขณะเดินนานๆหรือยืนนานๆ ควรเเนะนำให้ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจหาสาเหตุ

การนวดเเก้ข้อเท้าเเพลง
-สาเหตุ เกิดจากเอ็น พังผืด หรือกล้ามเนื้อที่ยึด รอบๆข้อ ถูกยืดออก(ข้อเคล็ด)หรือมีอาการฉีกขาด(ข้อเเพลง)เพราะหกล้ม ข้อบิด ถูกกระเเทกหรือยกของหนัก มักเป็นที่ข้อเท้า
-อาการ หลังจากข้อเท้าเเพลงทันทีจะมีอาการ ปวดเจ็บที่ข้อ เจ็บมากเวลาเคลื่อนไหวข้อ หรือใช้นิ้วกด ต่อมาจะบวมเเดงเเละร้อน
-การรักษาขั้นเเรก
1.หลังการบาดเจ็บ ควรประคบด้วยน้ำเเข็ง หรือเเช่ในน้ำเย็น เพื่อให้เลือดหยุดไหลข้างในลดอาการบวมเเละปวด ทำประมาณ 3 ครั้งในช่วง 24 ชั่วโมงเเรก เเล้วเอาผ้าพันยึด โดยพันรอบข้อเท้า พักการใช้ข้อนั้นเเละให้ยกข้อสูงเวลา นั่ง หรือ นอน
2.หลังจาก 24-48 ชั่วโมงเเล้ว ควรประคบด้วยน้ำร้อน หรือเเช่ในน้ำอุ่นครั้งละ15-30 นาที วันละ 2-3 ครั้ง อาจใช้ยาหม่อง ทาถูนวด เเละนวดบริเวณสันหน้าเเข้งเเละบริเวณน่อง ใช้ผ้าพันยึด พันพอเเน่น เเละยกข้อที่เเพลงให้สูงๆ เเล้วค่อยๆเคลื่อนไหวบริหารข้อให้คืนสู่สภาพเดิม
3.ถ้าอาการ ไม่ดีขึ้น หรือสงสัยว่ากระดูกหัก หรือ ข้อเท้าเเพลงด้านในควรส่งโรงพยาบาล
-จุดนวด
1.เเนวขาด้านนอกเส้น 1 ช่วงหน้าเเข้ง
2.เเนวขาด้านนอกเส้น 2 ช่วงหน้าเเข้ง
3.เเนวขาด้านนอกเส้น 3 ช่วงหน้าเเข้ง
4.เเนวขาด้านหลังเส้น 1 ช่วงน่อง
5.เเนวขาด้านหลังเส้น 2 ช่วงน่อง

การนวดเเก้อาการชา
-อาการชาเกิดจากการไหลเวียนโลหิตไม่ดี มี 2 เเบบคือ เเบบชั่วคราว(เมื่อมีอาการเเล้วกลับคืนปรกติได้)เเละเเบบถาวร(ซึ่งเกิดจากระบบประสาท)
-อาการเหน็บหมายถึงอาการที่เกิดจากการไหลเวียนโลหิตเฉพาะส่วนไม่ดี ความรู้สึกเฉพาะส่วนลดลง มีความรู้สึกคล้ายมีมดไต่ เกิดอาการเป็นชั่วคราวเเละหายไปได้เอง
-สาเหตุ การไหลเวียนเลือดไม่ดี เช่นเกิดจากการกดทับ จากอิริยาบทต่างๆ การเกร้ง เเข้งตัวของกล้ามเนื้อ เกิดจากเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
-อาการ ความรู้สึกเฉพาะส่วนลดลง มีความรู้สึกเหมือนมีมดไต่เป้นชั่วคราวเเละหายไปได้เองเมื่อเปลี่ยนวิธีนวด ถ้าเป้นมากจะเป็นอาการชา
เเนวนวดเส้นที่มีอาการชาเเละจุดที่ชาเช่นชาเเขนนวดเเขน 4 เเนวเเล้วเน้นจุดเฉพาะ
1.นวดชาทั่วๆไป
2.เน้นเเนวที่มีผลต่ออาการชา
3.เน้นเฉพาะบางจุดที่มีผล
4.นวดบริหารข้อต่อ เพื่อให้การไหลเวียนดีขึ้น
-หมายเหตุ นวดให้เส้นคลายให้เกิดความอบอุ่น
จุดนวดบริเวณที่ขา คือ นวดเเนวขาด้านนอก น่อง หลังเท้า ปลายนิ้วเท้า
จุดนวดบริเวณหลัง คือ นวดเเนวกระดูกสันหลัง เอว สะโพก
จุดนวดบริเวณเท้า คือ กึ่งกลางตาตุ่มด้านใน เเก้ชาปลายเท้ากดเเล้วดันเข้าหาตาตุ่ม
-ข้อเเนะนำ บริหารข้อต่อ ที่มีอาการ